มัลเบอร์รี หรือ หม่อน เป็นต้นไม้ที่มีการปลูกในประเทศไทยมานานแล้ว แต่ที่เรารู้จักประโยชน์จากต้นหม่อนก็เพียงเป็นต้นไม้ที่นำใบหม่อนไปเลี้ยงหนอนไหม แต่ผลของต้นหม่อนก็มีสีสันส่วนงามและมีรสชาติที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองที่มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน แต่ถ้าเป็นผลสีดำจะมีรสชาติหวาน มัลเบอร์รี่เป็นผลไม้ลูกเล็กเปี่ยมประโยชน์ที่ทำให้ผู้ที่ดูแลสุขภาพกำลังสนใจจนทำให้ความต้องการในตลาดมีมากจนกลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่น่าจับตามอง
วิธีการปลูกมัลเบอร์รี
การปลูกมัลเบอร์รีควรเริ่มจากการหาต้นพันธุ์ ซึ่งในประเทศไทยจะมีหลากหลายพันธุ์ที่นิยมปลูก แต่พันธุ์ที่นิยมปลูกในประเทศไทยก็คือ กำแพงแสน 84 บุรีรัมย์ 60 เชียใหม่60 ซึ่ง 3 พันธุ์นี้เหมาะสำหรับพื้นที่แลภูมิอากาศของประเทศไทยเพราะได้มีการพัฒนาจากสถานบันเกษตรต่าง ๆอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเลือกต้นพันธุ์เป็นที่เรียบร้อยแล้วควรเตรียมแปลงปลูกด้วยการใส่ปุ๋ยหมักในแปลงปลูกพร้อมวัดระยะในการปลูกให้ได้ประมาณ 4 x 4 เมตร หลังจากนั้นก็ขุดหลุดโดยใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 ลองก้นหลุมพร้อมปุ๋ยคอกก่อนที่จะนำมาปลูกลงหลุม ปัญหาอย่างหนึ่งสำหรับคนที่ปลูกต้นมัลเบอร์รีในกระถางก็คือต้นมัลเบอร์รีจะไม่เจริญเติบโต สาเหตุมาจากการที่รากของต้นขดตัวเป็นกระจุกเราควรแยกออกมาใส่กระถางที่ใหญ่ขึ้นและตกแต่งกิ่งก้านเพื่อให้ต้นมัลเบอร์รีแตกยอดใหม่ขึ้นมา
หลังจากปลูกได้ประมาณ 6-12 เดือน ตัดแต่งกิ่งของต้น มัลเบอร์รี ให้เหลือเพียงกิ่งเดียวไว้เป็นต้นตอ หลังจากนั้นจะมีกิ่งใหม่แตกยอดออกมาเลือกกิ่งที่สมบูรณ์ไว้กิ่งที่ไม่สมบูรณ์ก็ตัดทิ้งไป ต้นมัลเบอร์รีให้ผลผลิตได้เต็มที่เมื่อมีอายุครบ 2 ปี ซึ่งระหว่างนั้นเราควรที่จะบำรุงรักษาด้วยการใส่ปุ๋ยหมักและปุ๋ยสูตรอย่างสม่ำเสมอ ถ้าต้นมัลเบอร์รีมีความสมบูรณ์จะให้ผลผลิต ประมาณ 1.5-35 กิโลกรัมหรือประมาณ 750-1,850 ผลต่อครั้งต่อต้นเลยทีเดียว
นอกจากมัลเบอร์รีจะปลูกง่ายแล้วประโยชน์ของมัลเบอร์รียังเป็นที่ต้องการของกลุ่มผู้รักสุขภาพอีกด้วย โดยมีเอกสารอ้างอิงได้มีเผยแพร่ถึงประโยชน์ของมัลเบอร์รีว่าสามารถที่จะช่วยต้านโรงมะเร็ง โรคหัวใจพร้อมทั้งบำรุงร่างกาย โดยร่างกายต้องการผลมัลเบอร์รีอย่างน้อยวันละ 10 ถึง 30 ผลเท่านั้น ส่วนราคาของผลมัลเมอร์รีจะอยู่ที่ 150 ถึง 250 บาทต่อกิโลกรัมเลยทีเดียว
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก เว็บไทยอาชีพดอทคอม